ขุนแผนซุ้มขาด ปริศนาที่มีหลายชื่อ

“ ขุนแผนซุ้มขาด...ทำไมมีหลายชื่อ ??? ”

ขุนแผนซุ้มขาด อาจมีชื่อเรียกที่หลากหลาย ที่มาของชื่อย่อมสะท้อนถึงเหตุการณ์ ช่วงเวลาที่สำคัญ บุคคลที่เกี่ยวข้อง ความนิยม กระแสเล่นหา ด้วยผู้ตั้งหรือผู้เรียกย่อมอยากสะท้อนบางสิ่งบางอย่างให้สังคมได้เข้าใจสิ่งที่จำเพาะเจาะจงหรือคำจำกัดความนั้น
กระผมลองเรียงลำดับชื่อเรียกตามช่วงเวลาตามเอกสารที่ทิ้งร่องรอยในอดีตทั้งที่เป็นหนังสือ นิตยสาร ภาพถ่าย ใบประกาศงานประกวด พบมุมมองต่าง ๆ มากมายที่แอบแฝงรอให้ศึกษา โดยอาจนำมาจับคู่กับนิตยสารข่าวสารวงการพระในเวลาขณะนั้น ก็จะได้ความชัดเจนอะไรที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยชื่อของขุนแผนซุ้มขาดหากเรียงลำดับตามช่วงเวลาจากเอกสาร พบว่า
<<ปี 2543 ปีที่หนังสือ นิตยสาร ตีพิมพ์จำหน่าย>>
- ลองพิมพ์, ลองพิมพ์บล็อกทองเหลือง , ซุ้มขาด จะพบในงานที่ท่านอาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ ประธานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ศิษย์ครอบครูคนสุดท้าย ได้ถ่ายทอดไว้เป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์มากมายในหนังสือย้อนรอยหลวงปู่ทิมอิสริโก นิตยสารกระแสพระ หนังสือพระขุนแผนพรายกุมาร ยอดขุนพลบ้านค่าย หลวงปู่ทิม อิสริโก ปี 2543 ภาพถ่ายและอื่นๆ ศิษย์เอกท่านนี้มีบทบาทมากมายในการจัดสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมรวมถึงการทำโค๊ดเพื่อแยกแยะระหว่างพระแท้กับพระปลอมที่ช่วยให้การเล่นหาในวันนี้มีความชัดเจนที่จะข้ามคุณประโยชน์ข้อนี้ไปไม่ได้ และยังทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่องานของมูลนิธิฯ ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการทะนุบำรุงดูแลวัดละหารไร่ดังคำที่ได้รับปากไว้กับอาจารย์ของท่านว่าจะไม่ทิ้งวัดละหารไร่
<<ปี 2549 ปีที่นิตยสารตีพิมพ์จำหน่าย>>
- เบ้าทองเหลือง บล็อกอาจารย์ดุษฎี ชื่อเรียกในนิตยสารลานโพธิ์ ที่เขียนโดย อวิรุทธ์ อ้างอิงจากนิตยสารลานโพธิ์ ปีที่ 32 ฉบับที่ 959-961 เดือน ก.ย.-ต.ค. 2549 กล่าวถึง บล็อกแรกที่เป็นฝีมือท่านอาจารย์ดุษฎี ศิริโวหาร ซึ่งกระแสในวงการผู้เล่นหาเรียกขานว่า "บล็อกลองพิมพ์" แต่เพื่อมิให้เกิดความสับสน ควรจะเรียกว่า "บล็อกอาจารย์ดุษฎี" จะเข้าใจได้ง่ายกว่า
<<ปี 2550 ช่วงงานประกวด>>
- บล็อกสอง ชื่อในรายการประกวดที่เมืองพัทยา (เกิดในช่วงปี 2550) สะท้อนถึงแนวคิดในเมื่อก่อน "ถ้าไม่ใช่ขุนแผนบล๊อก 1 จะเรียกหรือคิดว่าเป็นบล๊อก 2 ทั้งหมด" (อ้างอิงจากนิตยสารกระแสพระ ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 เดือน ก.พ. 46 หน้าที่ 18)
<<ปี 2556-2558 ช่วงงานประกวด>>
- บล็อกเสาขาด ชื่อในรายการประกวดที่ศรีราชา ในปี 2556 , 2558
กระผมลองลำดับช่วงระยะเวลาของซุ้มขาดตามชื่อที่ปรากฏ ได้ดังนี้
1. ลองพิมพ์ (ยุคต้น)
2. ลองพิมพ์บล็อกทองเหลือง (ยุคต้นตอนปลาย)
3. เบ้าทองเหลือง บล็อกอาจารย์ดุษฎี (ยุคกลาง)
4. บล็อกสอง (ยุคกลางตอนปลาย)
5. บล็อกเสาขาด (ยุคปลาย)
หากกระผมจะทำการเชิงพาณิชย์เพื่อทำให้พระมีราคาสูงขึ้น กระผมก็ควรสลับที่ของชื่อขุนแผนซุ้มขาด จากยุคปลายที่ว่า "บล็อกเสาขาด" ไปเป็นยุคต้นว่า "ลองพิมพ์" แค่นี้ก็โปะเชะ แต่ชื่ออย่างเดียวยังไม่พอ กระผมต้องมีกระบวนการปั่นเพื่อให้กระบวนการเชิงพาณิชย์กระผมสมบูรณ์ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ กระผมอธิบายทฤษฎีนี้เพื่อสะท้อนแนวคิดส่วนตัวว่า ถ้าขุนแผนซุ้มขาด จำนวนพระเยอะ งานนี้กลุ่มหรือนายทุนเชิงพาณิชย์คงไม่มองข้าม เพราะประวัติขุนแผนซุ้มขาดสุดยอด ข้อมูลมากมาย เหลือแต่กำลังภายใน สำคัญคือ พระอยู่กับใคร อยู่กับท่าน "ไม่นิยม เล่นเฉพาะกลุ่ม" แต่ถ้าอยู่กับนายทุน "หายาก พบเห็นน้อย ของแท้ในอดีต"
พระก็องค์เดิมจากวัดละหารไร่ อยู่ที่มุมมองและการโปรโมทและทีมงานครับ ราคา ความนิยม อยู่ที่คน อยู่ที่กระแส พระก็องค์เดิมที่หลวงปู่ปลุกเสก
มองบวกถ้าพระขุนแผนซุ้มขาดมีจำนวนมากพอปั่นเพื่อทำกำไรเชิงพาณิชย์ พระก็จะไม่อยู่ในมือท่าน หากท่านอยากได้ก็ต้องเช่าราคาพระก็จะสูง แต่วันนี้พระราคาพอเช่าหาได้เป็นพระทางเลือกสำหรับท่านที่ทุนน้อยอีกมุมหนึ่ง